มีกลยุทธ์จำนวนมากสำหรับเทรดดิ้ง Binary Options, Forex หรือคริปโตเคอร์เรนซี่ที่สามารถจัดกลุ่มได้เป็นสองกลุ่ม: แบบพื้นฐานและทางเทคนิค

แบบใดมีประสิมธิภาพมากกว่ากัน?

เราสามารถใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคโดยที่ไม่ต้องใช้การวิเคราะห์พื้นฐานร่วมด้วยได้หรือไม่? การวิเคราะห์เชิง “เทคนิค” และ “พื้นฐาน” ทั้งสองรูปแบบนี้หมายความว่าอย่างไร? ถ้าหากคุณอ่านบทความวันนี้ของเรา คุณจะได้รับคำตอบซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะสำหรับคำถามเหล่านี้ 

การวิเคราะห์ทางเทคนิค 

เราทุกคนรู้ว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคหมายความว่าอะไร การวิเคราะห์ทางเทคนิคประกอบไปด้วย เส้นแนวโน้ม, การก่อตัว, ตัวชี้วัด, Oscillator และอื่น ๆ หนึ่งในข้อสนับสนุนการใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคจะเป็นข้อมูลการประวัติการทำซ้ำของมัน ฉะนั้นถ้าหากคุณพบว่า X ถูกตามด้วย Y ในอดีต อาจะเป็นไปได้ว่ารูปแบบเดียวกันหรือคล้ายกันจะเกิดขึ้นอีกครั้งในอนาคต

ถ้าคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ใช้กราฟ, เส้นแนวโน้ม, พินบาร์, ตัวชี้วัด, เส้น Fibonacci และอื่น ๆ คุณเป็นเทรดเดอร์ที่พึ่งพาการวิเคราะห์ทางเทคนิค ในแง่ของ Binary Options สันนิษฐานว่ากลยุทธ์เหล่านี้เป็นรูปแบบเฉพาะ และการสังเกตเทคนิคเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสของเราในการคาดการณ์ทิศทางของแนวโน้มที่จะเคลื่อนที่ไปได้ กลยุทธ์เหล่านี้ถูกใช้อย่างกว้างขวางในบรรดาเทรดเดอร์ของ Binary Option  

การวิเคราะห์พื้นฐาน

การวิเคราะหพื้นฐานนั้นแตกต่างจากการวิเคราะห์ทางเทคนิค เนื่องจากมีการสำรวจข้อมูลจากเศรษฐกิจมหภาค ตัวอย่างเช่น คุณต้องการเทรด EUR / USD คุณควรระวังข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจจากทั้งฝั่งยุโรปและสหรัฐอเมริกา เช่น ยอดคงเหลือการชำระเงิน (การนำเข้าและส่งออก), อัตราการแลกเปลี่ยนของธนาคารกลาง, อัตราการว่างงาน, ตลาดอสังหาริมทรัพย์, สถานการณ์ทางการเมือง และอื่น ๆ จากข้อมูลเหล่านั้น คุณจะสามารถกำหนดราคาสุดท้ายแล้วเก็งกำไรได้ว่ามันสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป 

แล้วจะเลือกแบบไหนดี

ถ้าหากคุณถามว่าการวิเคราะห์ทั้งสองแบบนี้แบบใดดีกว่ากัน คำตอบของผมก็คือ “ดีทั้งสองแบบ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์” ทั้งสองแบบนี้ต่างก็มีคุณสมบัติเฉพาะตัว การวิเคราะห์ทางเทคนิคได้ผลดีกว่าในระยะสั้น ดังนั้นถ้าคุณเป็นเทรดเดอร์รายวันการใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคก็จะมีประโยชน์กับคุณมากกว่า ในทางกลับกัน การวิเคราะห์พื้นฐานนั้นใช้ได้ผลดีกว่าในการเทรดระยะยาว

ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของเทรดเดอร์ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ วิธีการที่คุณต้องการใช้ในการเทรด 

ในฐานะ Forex เทรดเดอร์ คุณไม่ควรพึ่งพากลยุทธ์เพียงแค่กลยุทธ์เดียว การเทรดดิ้งตามเทคนิคไม่ได้หมายถึงการเพิกเฉยปัจจัยพื้นฐาน ถ้าหากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ใช้เทคนิคและต้องการข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้น ผมแนะนำให้ดูที่ forexfactory.com ซึ่งนำเสนอข่าวสำคัญ ๆ ของเศรษฐกิจมหภาคทั้งหมด ในขณะที่ความผันผวนเพิ่มขึ้นการวิเคราะห์ทางเทคนิคของคุณอาจแสดงผลที่ไม่ถูกต้อง 

สิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนควรรู้อย่างน้อยที่สุดเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค คือ ห้ามทำการเทรดตอนที่มีการเผยแพร่ข่าวสำคัญ ๆ (แดง) เช่นเดียวกันในการวิเคราะห์พื้นฐาน เทรดเดอร์ควรประเมินสถานการณ์และไม่ควรเทรดสวนทางกับรูปแบบทางเทคนิคที่แข็งแกร่งอย่างไม่สมเหตุสมผล อย่างน้อยคุณควรตระหนักถึงความจำเป็นและระมัดระวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันสูง ๆ ต่ำ ๆ, มีเส้นแนวรับ แนวต้านที่แข็งแกร่ง และอื่น ๆ

มันไม่ใช่แค่การวิเคราะห์ทางเทคดนิคหรือรูปแบบพื้นฐานเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ในขณะที่การวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้ได้ผลดีกว่าสำหรับช่วงเวลาสั้น ๆ การวิเคราะห์พื้นฐานนั้นมีประโยชน์สำหรับช่วงเวลาที่นานกว่า โปรดจำไว้ว่า ผมแนะนำให้คุณรวมทั้งสองรูปแบบนี้เข้าด้วยกัน ถ้าหากคุณต้องการใช้เพียงรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งคุณก็สามารถทำได้แต่ Forex เทรดเดอร์ที่ดีไม่เคยลืมว่าเหรียญมีสองด้านเสมอ เคารพซึ่งกันและกันและอย่าไปล้ำเส้นอีกฝ่าย

คุณอาจเป็นบุคคลที่ใช้การแลกเปลี่ยนแบบดั้งเดม เช่น USD สำหรับคริปโตเคอร์เรนซี่ในอัตราที่แน่นอน เช่นเดียวกับตอนที่คุณเปลี่ยนเงิน USD ให้เป็นเงินยูโรก่อนที่จะถึงวันหยุดของคุณ 

คุณสามารเก็บคริปโตของคุณ (ไลต์คอยน์, บิตคอยน์ หรือ อื่นๆ ) เอาไว้หรือแลกเปลี่ยน ต่อเมื่อมูลค่าเพิ่มขึ้นให้เปลี่ยนมันกลับเป็น USD 9มหลักการแล้วคุณควรได้รับเงินเพิ่มขึ้นหลายเท่าจากเงินทุนตั้งต้น ถ้าหากคุณเก็บเงินทั้งหมดไว้ในบิตคอยน์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2017 ถึง 31 ธันวาคม 2017 คุณอาจจะมีรายรับประมาณ 1300% เช่น 13 เท่าของเงินที่คุณมีในช่วงต้นปี 

หรือคุณอาจจะเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนของคริปโตเคอร์เรนซี่เพื่อสร้างรายได้ในช่วงสั้นด้วยวิธีเดียวกันกับการเทรด Forex คุณสามารถทำแบบนี้ได้ดังเช่นตัวอย่างหรือที่ IQ Option

เลเวอเรจเทรดดิ้ง

ด้วยการถือคริปโตเอาไว้ตามแบบดั้งเดิม คุณไม่สามารถใช้เลเวอเรจสำหรับเทรดดิ้งได้ มันไม่มีอะไรซับซ้อนสำหรับเลเวอเรจเทรดดิ้งเนื่องจากมันอาจปรากฎอยู่แล้วตั้งแต่แรก เลเวอเรจเทรดดิ้งให้จำนวนทวีคูณจากการลงทุนตั้งต้นของคุณ ถ้าคุณมีมันในบัญชีการเทรดดิ้ง สมมติว่า USD 10,000 และคุณใช้เลเวอเรจที่ 1:10 คุณสามารถเปิดการเทรดได้เหมือนกับคุณมีบัญชี USD 10,000 ราบรับของคุณก็จะมากขึ้นสิบเท่า ข่าวร้ายที่ต้องบอกก็คือหลักการเดียวกันนี้สามารถใช้กับทิศทาตรงข้ามในตอนที่คุณแพ้อีกด้วย

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
Myfxbook: เครื่องมือที่เป็นประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ Forex?
บทความนี้จะมุ่งเน้นไปที่ Myfxbook คืออะไรและคุณสามารถใช้บริการต่างๆ ได้อย่างไรเป็นหลัก แน่นอนว่าผมจะพูดถึงข้อดีและข้อเสียเกี่ยวกับเครื่องมือติดตามขึ้นชื่อสำหรับเทรดเดอร์ forex ด้วย หัวข้อมูลที่จะพูดถึงในบทความนี้มีดังต่อไปนี้:
3 เทคนิคบริหารเงิน ลดโอกาสล้างพอร์ตได้มากกว่าเท่าตัว (พร้อมตัวอย่างแบบชัดๆ)
เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมบางคนเงินทุนสำหรับการลงทุนก็มีมากหลายหมื่น หลายแสนบาท กำไรก็เคยได้กันหลายหมื่น หลายแสนบาท แต่ทำไมคนเหล่านั้น วันนึงถึงมีการล้างพอร์ตจนหมดแม้กระทั่งกำไรที่สะสมมาก็หมด