เทรดเดอร์ทุกคนมองหาช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าเทรด พวกเขารอหลายนาที, หลายชั่วโมง บางทีอาจจะหลายวันเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสนั้นไป และเมื่อเวลานั้นมาถึง พวกเขาก็เข้าสู่การเทรด 

แล้วมันมีแค่นั้นหรือ? ตำแหน่งถูกเปิดขึ้นมาแล้วก็เสร็จเรียบร้อย? ไม่ มันไม่ใช่เช่นนั้น มันยังไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ มาดูช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของการเทรด – การปิดตำแหน่ง

กลยุททธ์การเทรดดิ้ง

กลยุทธ์การเทรดดิ้ง คือหัวใจสำคัญของการเทรด เราไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าเราจะไปที่ตลาด Forex หรือตลาดอื่น ๆ โดยที่ไม่มีกลยุทธ์ได้อย่างไร ไม่จำเป็นที่จะต้องพัฒนากลยุทธ์ให้ซับซ้อนที่อยู่ในรูปแบบของคู่มือเล่มหนา ๆ ที่คุณต้องทำมีเพียงแค่เขียนมันลงในกระดาษ (ที่สำคัญก็คือ “ลงในกระดาษ” ไม่ใช่ “ในหัว”) โน๊ตเล็ก ๆ เช่นประเภทของเครื่องมือที่คุณต้องการเทรด, กรอบเวลา, ปริมาณและเงื่อนไขในการเข้าเทรด เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มีกลยุทธ์การเทรด บางครั้งพวกเขาใช้เวลามากมายในการพัฒนากลยุทธ์เหล่านั้น แล้วการออกจากการเทรดหรือเงื่อนไขการออกล่ะ? ต้องเขียนเรื่องนี้เข้าไปด้วยไหม? ใช่ ควรทำเช่นนั้น การออกจากตำแหน่งนั้นมีความสำคัญมากกว่าการเข้าสู่ตำแหน่ง (เงื่อนไข) ทำไมน่ะหรือ? ผมจะอธิบายในข้อความด้านล่าง  

ถ้าหากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์ซึ่งกำหนดจุดออกการจากเทรดและกำหนดบางสถานการณ์เอาไว้ สิ่งที่ผมสามารถทำได้คือแสดงความยินดีกับคุณ นั่นแสดงให้เห็นว่าคุณได้ยึดอยู่กับกลยุทธ์ที่คุณมั่นใจว่าสามารถสร้างผลกำไรให้กับคุณได้ หรืออย่างน้อยก็อยู่ในหนทางไปสู่ความสำเร็จที่ถูกต้อง

การปิดตำแหน่ง

ก่อนที่จะทำการเทรด คุณจำเป็นจะต้องรู้ว่าคุณต้องการปิดตำแหน่งเมื่อคุณได้กำไร (Take Profit) หรือเมื่อคุณขาดทุน (Stop Loss) สิ่งเหล่านี้อาจเป็นตัวบ่งชี้กลยุทธ์และเป็นการทดสอบย้อนกลับ (ทดสอบจากข้อมูลในอดีต) ไม่เช่นนั้นคุณจะรู้ได้อย่างไรว่ากลยุทธ์การเทรดดิ้งของคุณมีผลกำไร? 

เคล็ดลับ: คุณสามารถทำการทดสอบย้อนกลับโดยใช้ Meta Trader 4 ได้ จะทำได้อย่างไร? อ่านข้อมูลเพิ่มเติมในบทความของเราได้ที่ กลยุทธ์การทดสอบ MT4

ประมาณ 7 ปีที่แล้ว ตอนที่ยังเป็นมือใหม่ ผมมีประสบการณ์ดังที่ได้อธิบายเอาไว้ ผมขอรับรองกับคุณอีกครั้งว่ามีข้อยกเว้เพียงไม่กี่ข้อเท่านั้น หลังจากหลายชั่วโมงที่รอคอยคุณเข้าสู่ตำแหน่งที่ดูเหมือนว่าสมบูรณ์แบบซึ่งทำให้คุณคิดว่า “นี่คือตำแหน่งในอุดมคติของฉัน ตอนนี้ ฉันจะลองเสี่ยงโชค สุดท้ายแล้วนี่คือรางวัลที่ฉันสมควรได้รับหลังจากรอรคอยมาเป็นเวลานาน” แต่หลังจากนั้นคุณก็ตระหนักได้ว่าผลกำไรที่คุณได้มันไม่มีอะไรน่าพูดถึง คุณใช้เวลาส่วนใหญ่ที่บางครั้งก็ทำกำไรเพียงเล็กน้อย

หลังจากที่เริ่มต้นในตำแหน่งนี้ไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง คุณจะรู้สึกกังวลและคิดว่ามันแปลก แต่สุดท้ายแล้วหลังจากที่สูญเสียมาเป็นระยะเวลานานคุณก็จะไม่ลังเลและก็รีบออกจากตำแหน่งไป

พฤติกรรมแบบด้านบนนั้นเกิดขึ้นได้ทั่วไป แล้วเกิดอะไรขึ้น? ส่วนใหญ่แล้วก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ ตลาดชะลอตัวลงทำให้เทรดเดอร์เป็นกังวล กลัวในการสูญเสีย เทรดเดอร์ออกจากตลาดไปพร้อมกับกำไรที่น่าขันในกระเป๋าของเขา หลังจากวิเคราะห์การเทรดย้อนหลังคุณก็รู้แล้วว่าถ้าคุณอดทนคุณจะได้รับผลกำไรเต็มจำนวน ความหมายโดยนัยในการทำความผิดพลาดเช่นนั้น (แม้ว่าจำนวนของความผิดพลาดจะเป็น “แค่” 2 ครั้งจากการเทรด 10 ครั้ง) ไม่ได้ร้ายแรงแต่ความสำเร็จก็แตกต่างจากเทรดเดอร์ที่ไม่ประสบความสำเร็จไม่มากก็น้อย 

ปัญหาทั้งหมดนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการเทรดที่เป็นรูปธรรมสองรายการ ดีลที่มีกำไรน้อยกว่าสองรายการจะไม่ทำให้คุณถึงขั้นล้มละลาย คุณจะต้องคำนึงถึงภาพที่กว้างขึ้น คุณจะพลาดกำไรที่ยังไม่ถือว่าเป็นรายได้เมื่อคุณต้องการนำมันไปชดเชยให้กับการสูญเสีย (ซึ่งได้คาดการณ์ไว้แล้วในกลยุทธ์ของคุณ) 

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมในการเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนความเสี่ยงของการเทรดที่ปิดตัวเร็ว (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ RRR ที่นี่)

ช่วงเวลาสำคัญในการเทรดดิ้ง: ควรออกจากการเทรดเมื่อใด? -1

นี่คือความแตกต่างที่สามารถมองเห็นได้ระหว่างการเทรดที่ปิดตัวลงอย่างถูกต้องและการเทรดที่ปิดตัวลงไม่ถูกต้อง บางครั้งคุณต้องยอมรับว่าไม่ใช้ทุกการเทรดจะปิดตามอุดมคติ 

การปิดการเทรดที่นอกเหนือจากกลยุทธ์ 

การเทรดดิ้งก่อให้เกิดความเครียดและไม่ใช่เทรดเดอร์ทุกคนที่จะสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องทุกครั้งเมื่อต้องเปิดตำแหน่ง คิดให้รอบคอบก่อนที่จะทำอะไร วาดองค์ประกอบที่สำคัญทุกอย่างลงในแผนของคุณ องค์ประกอบเหล่านี้จะทำให้อารมณ์ของคุณคงที่

เวลาที่ต้องออกจากตำแหน่งที่เปิดไว้ก่อนที่จะถึงระดับ Take Profit และ Stop Loss

ถ้าคุณกำลังเทรดดิ้งคู่สกุลเงิน EUR/USD อยู่ และทันใดนั้นคุณก็ได้ยินข่าวว่า FED หรือ ECB นั้นกำลังถูกตรวจสอบเนื่องจากเข้าไปพัวพันกับข้อเสนอที่ไม่โปร่งใส การพิจารณาที่จะออกจากการเทรดนั้นดูเหมือนว่าเป็นการกระทำที่ชาญฉลาด แน่นอนว่าข่าวทำให้คุณมีความกังวลเกี่ยวกับตลาดและความผันผวนก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นบางสิ่งที่คุณไม่ได้ใส่เอาไว้ในการคาดการณ์ของคุณ 

เหตุการณ์อีกหนึ่งประเภทที่ควรนำมาพิจารณาเพื่อออกจากการเทรดคือ การเพิกเฉย มันอาจเกิดขึ้นได้ว่าคุณเข้าสู่การเทรดจากการที่เข้าใจข้อมูลบางอย่างผิดไปหรือไม่เห็น (ไม่สนใจ) ปัจจัยสำคัญบางอย่าง (เทรดเดอร์ที่เต็มไปด้วยความตั้งใจควรจะหลีกเลี่ยงความผิดพลาดเช่นนั้น) ดังนั้นการออกจากการเทรดก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้น

หลังจากที่เข้าเทรดตามกลยุทธ์ของคุณแล้ว คุณควรสังเกตทันทีว่ามีระดับเส้นแนวรับหรือเส้นแนวต้านสำคัญที่ใกล้เข้ามาหรือไม่ ถ้าระดับนั้นไม่ไปในทิศทางเดียวกันกับคุณ อย่างน้อยคุณควรดูความคืบหน้าของการเทรดอย่างระมัดระวัง ถ้าหากมีการดีดกลับตามมามันก็ไม่มีเหตุผลที่จะรออีกต่อไป แน่นอน ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับคุณ 

ช่วงเวลาสำคัญในการเทรดดิ้ง: ควรออกจากการเทรดเมื่อใด? -2

ปิดการเทรดเร็วกว่ากำหนด

สำหรับภาพประกอบ: เทรดเดอร์ในรูปภาพด้านบนเข้าสู่การเทรดที่จุด A จากการตีกลับที่เกิดขึ้นจากการทะลุหลอกของเส้นแนวรับ (สีน้ำเงิน) แท่งเทียนจำนวนหนึ่งหลังจากที่เทรดเดอร์เห็นแนวโน้มขาลง (เส้นประสีแดง) อย่างชัดเจน และก่อนที่จะประสบกับความสูญเสีย ได้ตัดสินใจปิดการเทรดในกรณีนี้

ถ้าหากคุณเห็นตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องหรือสัญญาณต่าง ๆ ให้วาดมันลงในกลยุทธ์การเทรดดิ้งของคุณ คำอธิบายของเราค่อนข้างกว้างแต่กลยุทธ์ของคุณอาจจะค่อนข้างสั้น เซคชั่นที่เฉพาะเจาะจงยี้อาจมีเพียงไม่กี่จุดเท่านั้น:

เกณฑ์สำหรับการปิดการเทรดก่อนเวลา:

  • ข่าวใหม่ / ข่าวที่ไม่คาดคิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง, การก่อการร้าย, การแทรกแซงที่ไม่คาดคิด เป็นต้น
  • การเพิกเฉยต่อข้อความ / ข้อเท็จจริง
  • การระบุการก่อตัวใหม่ที่สำคัญ หรือระดับแนวรับ / แนวต้าน

การปิดตำแหน่งภายในแผนการเทรดดิ้ง

มีอีกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับผม คุณลืมที่จะรวมหลักเกณฑ์ของ “การปิดการเทรด” ลงในแผนการเทรดดิ้งของคุณ ครั้งนี้มันขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การเทรดดิ้งของคุณ คุณสามารถตั้งค่า Take Profit หรือ Stop Loss ที่ค่าคงที่ 20 pips เส้นแนวโน้มอาจช่วยบอกคุณได้ดีเช่นกัน จุดสูงจุดต่ำจากการก่อตัวของการเทรดก็มีประโยชน์ในการเข้าสู่การเทรดเช่นกัน คุณไม่จำเป็นต้องพึ่งพาตนเองเพียงอย่างเดียว คุณสามารถใช้บทความของเราเป็นแรงบันดาลใจหรือช่วยในการพัฒนากลยุทธ์การเทรดดิ้งของคุณได้ เทรดเดอร์ที่อยู่ในขั้นสูงอาจสะท้อนความรู้ของพวกเขาหรือเพิ่มองค์ประกอบใหม่ ๆ เข้าไปในกลยุทธ์ของพวกเขาได้
กลยุทธ์การเทรดดิ้งเป็นแกนหลัก, เป็นหัวใจ, เป็นพื้นฐาน... ของการเทรดดิ้ง ซึ่งคุณเคยได้ยินคำพูดพวกนี้มาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง 

กลยุทธ์การเทรดดิ้งที่ครอบคลุมทุกสถานการณ์ที่คุณติดอยู่ สามารถช่วยให้คุณกลายเป็นเทรดเดอร์ที่ประสอบความสำเร็จได้อย่างดี โปรดจำเอาไว้ การออกจากการเทรดเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดซึ่งจะเป็นตัวตัดสินความสำเร็จหรือความล้มเหลวของคุณ ช่วงเวลาออกจากการเทรดที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลกระทบต่อกำไรของคุณ (การออกจากการเทรดเร็วเกินไปทำให้ไดผลกำไรต่ำ) หรือสูญเสียกำไร (การอยู่ในตำแหน่งนานเกินไปทำให้สูญเสียกำไร) 
 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
การเทรด Break out คืออะไร (Break out Trading)
การเทรด Break out คือ การเทรดทำในช่วงที่ราคาสามารถทะลุกรอบแนวรับ-แนวต้านได้สำเร็จจากหลักการพื้นฐานเดิมของแนวรับ-แนวต้าน ที่ได้ตั้งสมมติฐานเอาไว้คือหากราคาเข้าใกล้โซนแนวต้าน (over bought) หมายความว่าตอนนี้ตลาดได้มีการซื้อที่มากเกินไปเหล่าเทรดเดอร์จึงเตรียมออกคำสั่งขาย
กลยุทธ์การเทรด Inside Bar ใน IQ OPTION
Inside Bar คือ หนึ่งในรูปแบบการกลับตัว (Reversal Pattern) ของการเทรดแบบ Price Action ในการเทรดที่ IQ OPTION นั้นเราสามารถพบเจอรูปแบบการกลับตัวของ Inside Bar ได้เกือบแทบทุกครั้ง รูปแบบการกลับตัวของ Inside Bar สามารถพบเจอบ่อยครั้งในรูปแบบของกราฟแท่งเทียน เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักใช้รูปแบบการกลับตัวนี้ในการเข้าออร์เดอร์เพื่อทำกำไร